บิลฮาร์เซีย: สิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วที่ซ่อนอยู่ในระบบย่อยอาหารของเรา!

 บิลฮาร์เซีย: สิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วที่ซ่อนอยู่ในระบบย่อยอาหารของเรา!

บิลฮาร์เซีย (Bilharzia) เป็นชื่อสามัญของกลุ่มพยาธิตัววีในจำพวก Trematoda ที่เป็นสาเหตุของโรคบิลฮาร์เซียซึ่งเป็นโรคปรสิตสำคัญที่พบได้ทั่วโลก โรคนี้นิยมเรียกกันว่า “โรคไส้เดือนฝอย” หรือ “โรคไข่หอย”

ชีววิทยาของบิลฮาร์เซีย

บิลฮาร์เซียเป็นพยาธิตัววีที่มีขนาดเล็กมาก โดยมีความยาวประมาณ 7-20 มิลลิเมตร และมีลักษณะลำตัวแบนและรีเหมือนกับใบไม้

ชนิดของบิลฮาร์เซีย ตัวผู้ ตัวเมีย
Schistosoma mansoni 6-10 mm 7-16 mm
Schistosoma haematobium 10-20 mm 15-30 mm

ตัวผู้จะมีรอยเว้าที่ด้านข้างลำตัวเพื่อจับคู่กับตัวเมีย ตัวเมียจะยาวกว่าตัวผู้ และมีท่อวางไข่ที่ปลายลำตัว

วงจรชีวิตของบิลฮาร์เซีย

วงจรชีวิตของบิลฮาร์เซียมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับสองโฮสต์:

  1. โฮสต์คน: บิลฮาร์เซียจะวางไข่ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ ไข่เหล่านี้จะถูกขับออกมาพร้อมอุจาระหรือปัสสาวะ

  2. โฮสต์ตัวกลาง (หอยทาก): ไข่บิลฮาร์เซียที่ถูกขับออกมากับอุจาระหรือปัสสาวะของมนุษย์ จะฟักเป็นตัวหนอนว่ายน้ำที่เรียกว่า “miracidia” และจะเข้าไปในร่างกายของหอยทาก

  3. การพัฒนาในหอยทาก: Miracidia จะเจริญเติบโตและเปลี่ยนรูปร่างภายในหอยทาก เป็น “cercariae” ซึ่งเป็นตัวหนอนที่มีหางยาว

  4. การติดเชื้อมนุษย์: Cercariae จะว่ายน้ำออกจากหอยทาก และจะแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังของมนุษย์ที่สัมผัสน้ำที่ปนเปื้อน

  5. การขยายพันธุ์ในร่างกายมนุษย์: Cercariae ที่เข้าไปในร่างกายมนุษย์ จะเปลี่ยนรูปร่างเป็น “schistosomula” และจะว่ายไปตามกระแสเลือดเพื่อไปยังตับหรือไส้

  6. การวางไข่: Schistosomula จะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย (adult worm) ในตับหรือไส้ของมนุษย์ และจะเริ่มวางไข่

โรคบิลฮาร์เซีย

โรคบิลฮาร์เซียเกิดขึ้นเมื่อตัวหนอนบิลฮาร์เซียแทรกซึมเข้าไปในร่างกายมนุษย์และเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย ไข่ที่วางโดยตัวเต็มวัยจะถูกขับออกมาพร้อมอุจาระหรือปัสสาวะ

โรคบิลฮาร์เซียอาจไม่มีอาการแสดงชัดเจนในระยะเริ่มแรก แต่เมื่อ infection ยืดยาว อาการก็จะแสดงออกมากขึ้น เช่น

  • อาการไข้: ไข้ต่ำ

  • อาการท้องรุม, ท้องอืด, และคลื่นไส้อาเจียน: จากการอักเสบในลำไส้

  • มีเลือดปะปนในอุจาระ (hematochezia) : จากการที่พยาธิกัดกินผนังหลอดเลือด

  • อาการไอและเหนื่อยหอบ: จากการที่มีไข่บิลฮาร์เซียไปสะสมตามปอด

การรักษาโรคบิลฮาร์เซีย

การรักษาโรคบิลฮาร์เซียมักใช้ยาต้านพยาธิ เช่น praziquantel ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดตัวเต็มวัยของพยาธิ

การป้องกันโรคบิลฮาร์เซีย

  • หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในน้ำที่อาจปนเปื้อนไข่บิลฮาร์เซีย: น้ำขัง, สระน้ำธรรมชาติ

  • ดื่มน้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อ: ต้มน้ำให้เดือด 5 นาที หรือใช้ฟอกซ์

  • ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำหลังจากไปเข้าห้องน้ำหรือสัมผัสดิน:

บิลฮาร์เซียเป็นพยาธิตัววีที่มีชีวิตในวงจรที่ซับซ้อน การป้องกันการติดเชื้อของโรคบิลฮาร์เซียจึงต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากบุคลากรทางสาธารณสุขและประชาชน