กิ้งกือดำ! สัตว์ขาเยอะที่อาศัยอยู่ตามพื้นดินและมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ

กิ้งกือดำ (Dark-sided millipede) เป็นสัตว์ขาเยอะชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในป่าชื้นเขตร้อนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ชื่อ “กิ้งกือ” มาจากคำว่า “กิ้ง” ซึ่งหมายถึง “กระดูก” และ “กือ” ซึ่งหมายถึง “ข้อ” เนื่องจากร่างกายของมันประกอบด้วย segments จำนวนมากซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยข้อต่อที่ยืดหยุ่นได้

ลักษณะและรูปร่าง

กิ้งกือดำมีลำตัวสีน้ำตาล-ดำ ปกคลุมไปด้วยแผ่นเกราะแข็งที่เรียกว่า “tergites” ซึ่งช่วยปกป้องมันจากศัตรู มีขาจำนวนมาก (มากกว่า 100 ขา) เรียงกันเป็นคู่สองข้างตลอดความยาวลำตัว ขาของกิ้งกือดำสั้นและแข็งแรง ทำให้มันสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างช้าๆ และคล่องแคล่วในพื้นที่แคบ

ลักษณะ	รายละเอียด
ขนาด	2-4 เซนติเมตร
สี	น้ำตาล-ดำ
จำนวนขา	60-80 ขา
รูปร่าง	ลำตัวยาวและเรียว

สถานที่อาศัย

กิ้งกือดำอาศัยอยู่บนพื้นดินในป่าชื้นเขตร้อน มักพบเห็นในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ใต้กองใบไม้ ฟืน และหิน มันชอบที่จะหลบซ่อนตัวอยู่ในที่มืดและชื้นเพื่อหลีกหนีจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด

ชีวิตประจำวัน

กิ้งกือดำเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวมากนัก มันใช้เวลาส่วนใหญ่ในการหาอาหารและหลบซ่อนตัว มันกินซากพืช สาหร่าย และเชื้อรา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศโดยช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์

การป้องกันตัว

กิ้งกือดำไม่มีพิษ แต่เมื่อถูกคุกคาม มันจะม้วนตัวเป็นวงกลมเพื่อปกป้องส่วนอ่อนของร่างกาย นอกจากนี้ ยังสามารถปล่อยสารเคมีที่มีกลิ่นเหม็นออกมาเพื่อไล่ศัตรู

การสืบพันธุ์

กิ้งกือดำมีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ตัวเมียจะวางไข่ลงในดิน หลังจากฟักเป็นตัวหนอน ตัวหนอนจะต้องลอกคราบหลายครั้งเพื่อโตขึ้นและพัฒนารูปร่าง

ความสำคัญต่อระบบนิเวศ

กิ้งกือดำมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ โดยช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ และทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ มันยังเป็นอาหารของสัตว์อื่นๆ เช่น นกและสัตว์เลื้อยคลาน

ความน่าสนใจ

• กิ้งกือดำมีอายุขัยค่อนข้างยาว โดยอาจมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 5 ปี
• กิ้งกือดำสามารถหายใจผ่านผิวหนังได้

กิ้งกือดำ เป็นสัตว์ขาเยอะที่น่าสนใจและมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ แม้ว่ารูปร่างของมันอาจจะดูไม่สวยงามนัก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของชีวิตบนโลกใบนี้